I'm B *o* N *u* S ^_^

วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

Blogger หมายถึง

หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า Blog คืออะไร? แตกต่างจากไดอารี่ online ไหม? แล้วทำไมคำๆนี้ถึงมาแรงจัง ไปไหนๆก็มีแต่ Blog สรุปแล้วมันคืออะไรกันแน่?
บล็อก (อังกฤษ: blog) หรือ เว็บล็อก (weblog) เป็นหน้าเว็บประเภทหนึ่ง ซึ่งคำว่า blog ย่อมาจากคำว่า weblog หรือ web log โดยคำว่า weblog นั้นมาจาก web (เวิลด์ไวด์เว็บ) และ log (ปูม, บันทึก) รวมกัน หมายถึง บันทึกบนเวิล์ดไวด์เว็บ นั่นเอง
ในปัจจุบันบล็อก ถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ฯลฯ และกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยขณะนี้ได้มีผู้ให้บริการบล็อกมากมาย ทั้งแบบให้บริการฟรี และเสียค่าใช้จ่าย – Wikipedia
สรุปง่ายๆ Blog ก็คือ Website รูปแบบหนึ่ง ที่มีการจัดเรียง “เรื่อง” หรือ post เรียงลำดับ โดยเรื่องใหม่จะอยู่บนสุด ส่วนเรื่องเก่าสุดก็จะอยู่ด้านล่างสุด
Blog อาจจะพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นของ ไดอารี่ online ก็เป็นได้ โดย Blog จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรก็ได้ ไม่จำกัด ซึ่ง ไดอารี่ ก็ถือว่าเป็น Blog ในรูปแบบหนึ่ง
Blog ส่วนใหญมักจะเขียนโดยคนเพียงคนเดียว แต่ก็มีไม่น้อยที่เขียนเป็นกลุ่ม โดยอาจจะมีเรื่องราวเฉพาะไปที่ๆเรื่องประเภทเดียว หรือบางทีก็หลากหลาย ซึ่งส่วนใหญ่เรื่องราวที่เขียนขึ้นมานาน จะถูกเก็บรวบรวมเป็น Archives เก็บไว้ โดยมักจะแสดงผลเป็น link ในรูปแบบ วันเดือนปี เพื่อให้เราสามารถกดเข้าไปดูได้ ก็ไม่ต้องตกใจว่าที่หน้าแรกของ Blog บางทีก็มีเรื่องแสดงแค่ 10 เรื่องก็หมดแล้ว เพราะบางทีใน Archives อาจมีเรื่องอยู่ในนั้นอีกเป็นร้อยๆ โดยที่เราต้องเข้าไปดู
Blog มักจะมาคู่กับระบบ Comment ที่เปิดโอกาสให้คนอ่าน สามารถ Comment ข้อความต่อท้ายในเรื่องที่เรา post ได้ คล้ายๆรูปแบบของ Webboard ไม่ว่าจะเป็นติชม แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม หรือบอกแหล่งข้อมูลใหม่ๆ หรืออาจจะแค่ทักทายเจ้าของ ฺBlog ก็เป็นได้ ถ้าคุณลองเลื่อนไปดูด้านล่างของเรื่องนี้ จะพบช่องให้กรอก Comment ทิ้งข้อความไว้ให้ผมได้ :D
Blog อาจจะมีบริการทั้งเสียเงิน และไม่เสียเงิน ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการให้บริการ ซึ่งมักจะติดตั้ง Tool ให้เราสามารถใช้งานได้ง่ายๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์มากมายนัก
โดยส่วนใหญ่แล้ว Blog หลายๆที่มักจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และลึก เนื่องจากเจ้าของ Blog มักจะนำข้อมูลที่ตัวเองรู้ หรือประสบการณ์มาถ่ายทอด โดยค่อนข้างเป็นกันเอง
แต่ในปัจจุบัน บริษัทใหญ่ๆ ก็หันมามี Blog เป็นของตัวเองกันมาก ไม่ว่าจะเป็น Google , Yahoo เพราะ Blog สามารถทำตัวเป็น PR ให้กับบริษัทได้ โดยสร้างความรู้สึกเป็นกันเอง ไม่มีพิธีอะไรมาก สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง โดยไม่ต้องเป็นทางการมากนัก และลูกค้าก็ชอบที่จะติดต่อสื่อสารผ่านทาง Blog ด้วย
ปัจจุบันในเมืองไทยมีผู้ให้บริการ Blog อยู่หลายที่ เช่น Bloggangexteen หรือ BlogKa
หรือต่างประเทศเช่น BloggerWordPressMySpaceแล้ววันนี้คุณมี Blog ของตัวเองแล้วหรือยัง

Internet หมายถึง


Dino-Lite กล้องจุลทรรศน์พกพา รางวัลยอดเยี่ยมโลก


 What is Internet ? (อินเตอร์เน็ตคืออะไร ?) / by Internet KSC


อินเตอร์เนต : คือ ระบบเน็ตเวิร์กขนาดใหญ่ ที่ต่อเชื่อมระบบต่างๆ ทั่วโลก เข้าด้วยกัน เปรียบเสมือนห้องสมุด สาธารณะชน ขนาดมหึมา ที่ใหญ่ที่สุด ในโลก ก็ว่าได้ ที่มีข้อมูลต่างๆมากมาย และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นการ ค้นคว้าวิจัย หรือ เพื่อความ บันเทิง เป็นต้น
อินเตอร์เนต เป็นคำ ที่หลายคนคุ้นหูและเป็นที่รู้จักกันดีในขณะนี้ นอกจากนั้นมัน ไม่ใช่เป็นแค่ระบบ เน็ตเวิร์กขนาดใหญ่ธรรมดา เท่านั้น แต่มันเป็น อภิมหาเน็ตเวิร์กโลก ( เน็ตเวิร์ก ที่เชื่อต่อกันหลายๆ เน็ตเวิร์ก จาก ทั่วทุกมุมโลกเข้าไว้ด้วยกัน ) ที่ๆ เสมือนถนนที่จะพาผู้ที่เป็นสมาชิกบน เน็ตเวิร์ก ไปได้ ทุกแห่งทุกหนบนโลก อินเตอร์เนต


กว่าจะมาเป็น อินเตอร์เนต
อินเตอร์เนต มีการพัฒนาการมาจาก อาร์พาเน็ต ( ARPAnet หรือที่เรียกกัน สั้นๆว่า อาร์พา ที่ตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2512 เป็นเครือข่าย คอมพิวเตอร์ ของกระทรวงกลาโหม ที่ใช้กันในงานวิจัยทางด้าน การทหาร ( ARPA : Advanced Research Project Agency ) จนกระทั่ง มาถึงในปี พ.ศ. 2515 หลังจากที่เครือข่าย ทดลอง ของ อาร์พา ประสบกับความสำเร็จเป็นอย่างมาก ก็ได้มีการปรับปรุง หน่วยงาน จาก อาร์พา มาเป็น ดาร์พา ( Defence Comunication Agency ) และ ในปี พ.ศ. 2526 อาร์พาเน็ต ก็ได้แบ่งออกเป็น 2 เครือข่ายด้วยกัน คือ เครือข่ายด้านงานวิจัย ใช้ชื่อ อาร์พาเน็ต เหมือนเดิม ส่วนเครือข่ายของกองทัพใช้ มิลเน็ต ( MILNET : Military Network ) ซึ่งมีการเชื่อมต่อ โดยใช้ โพรโตคอล TCP / IP ( Transmission Control Protocol / Internet Protocol ) เป็น ครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2528 โดย มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ของ อเมริกา NSF ได้ให้เงิน ทุนในการสร้าง ศูนย์ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ จำนวน 6 แห่ง และให้ใช้ชื่อว่า NSFNET แลพจนกระทั่งพอมาถึงปีพ.ศ. 2533 อาร์พาเน็ต รองรับ ภาระที่เป็น กระดูกสันหลัง ( BackBone ) ของระบบ ไม่ได้จึงได้ยุติ อาร์พาเน็ต และเปลี่ยนไปใช้ NSFNET และ เครือข่ายอื่นๆ แทน จนมาเป็นเครือข่ายขนาดมหึมา จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ และเรียก เครือข่ายนี้ว่า อินเตอร์เนต ( Internet ) โดย เครือข่ายส่วนใหญ่จะอยู่ในประเทศ สหรัฐอเมริกา และ ปัจจุบันนี้ได้มี เครือข่ายย่อย มากถึง 25,000 เครือข่ายเลยทีเดียว

สิ่งที่จำเป็นต้องรู้บนอินเตอร์เนต

ที่อยู่บนอินเตอร์เนต หรือ Internet Address จะประกอบด้วยชื่อของผู้ใช้ คอมพิวเตอร์ ( User ) และ ชื่อของ อินเตอร์เนต ( Internet Name ) โดยจะมีรูปแบบคือ ....


ชื่อผู้ใช้@ชื่อของอินเตอร์เนต , yourname@domain.xxx
ตัวอย่างเช่น tick@mail.ksc.net จะหมายถึงว่า ผู้ใช้ ใช้ชื่อ tick เป็นสมาชิก ของศูนย์บริการ หรือ ศูนย์คอมพิวเตอร์ ชื่อ mail ที่มีชื่ออินเตอร์เนตเป็น ksc.net.th หรือthanop@thaiware.com หมายถึงว่าผู้ใช้ ใช้ชื่อ thanop เป็นสมาชิกของศูนย์คอมพิวเตอร์ที่มีชื่อเป็น thaiware.com หมายเลขอินเตอร์เนต หรือ IP Address จะเป็นรหัสประจำตัวของคอมพิวเตอร์ที่ต่อเข้ากับอินเตอร์เนต โดยหมายเลขนี้จะมีรหัสไม่ซ้ำกัน ประกอบไปด้วยตัวเลขจำนวน 4 ชุด ด้วยกัน ที่คั่นด้วย เครื่องหมายจุด (.) ยกตัวอย่างเช่น 203.151.217.158 ครับ จะเป็นหมายเลข IP Address ของเครื่อง thaiware.com
ชื่ออินเตอร์เนต ( DNS : Domain Name Server ) จะเป็นชื่อที่อ้างถึง คอมพิวเตอร์ ที่ต่อเข้ากับ อินเตอร์เนต เนื่องจาก IP Address เป็น ตัวเลข 4 ชุด ซึ่งเป็นที่ยากในการจำเป็นอย่างมาก และ ไม่ได้สะดวกต่อผู้ใช้ ซึ่ง DNS นี้จะทำให้จดจำได้ง่ายยิ่งขึ้น เป็น mail.ksc.net.th , comnet3@ksc.net.th ( mail คือ ชื่อ คอมพิวเตอร์ , ksc คือชื่อ เครือข่ายท้องถิ่น ,net คือ ซับโดเมน th คือ ชื่อโดเมน )


ความหมายของโดเมน
สำหรับ ความหมายของโดเมน ในเครือข่าย อินเตอร์เนต ก็ได้จำแนกออกมาทั้งหมด 6 ประเภทด้วยกัน คือ :
  • .com - กลุ่มองค์การค้า ( Commercial )
  • .edu - กลุ่มการการศึกษา ( Education )
  • .mit - กลุ่มองค์การทหาร ( Military )
  • .net - กลุ่มองค์การ บริการเครือข่าย ( Network Services )
  • .org - กลุ่มองค์กรอื่นๆ ( Organizations )
  • .int - หน่วยงานที่ตั้งขึ้นโดยสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างประเทศ ( International )
ถ้า สังเกตุดีๆ จะเห็นว่า ในประเทศ สหรัฐอเมริกา เท่านั้น ที่จะมี โดเมน เป็นตัวอักษร 3 ตัว ในกรณีที่ ประเทศอื่นๆ เช่น ประเทศไทย ของเรา จะเป็นเพียงแค่ 2 ตัว เท่านั้น !!! เช่นmicrosoft.com ของประเทศ สหัรฐอเมริกา กับ ksc.net.th ของไทย นั่นเอง นอกจากนี้ ในบ้านเรามีการกำหนดชื่อโดเมน ขึ้นมา ใหม่ !!! อีก ด้วย อย่างเช่น internet.th.com จะหมายถึงว่า เครื่องที่ชี้ว่า internet อยู่ใน ประเทศไทย ( th ) และ เป็นบริษัททางการค้า ( com )

โดเมน ที่เป็นชื่อย่อของประเทศที่น่าสนใจ





CodeCName ( Thai )Name ( English )
.auออสเตรเลียAustralia
.frฝรั่งเศสFrance
.hkฮ่องกงHong Kong
.jpญี่ปุ่นJapan
.thไทยThailand
.sgสิงค์โปร์Singapore
.ukสหราชอาณาจักรUnited Kingdom
.noนอร์เวย์Norway
ความหมายของ ซับโดเมน ในไทย




CodeType ( Thai )Type ( English )
.acสถาบันการศึกษาAcademic
.coองค์กรธุรกิจCommercial
.orองค์กรอื่นๆOrganizations
.netผู้วางระบบเน็ตเวิร์กNetworking
.goหน่อยงานของรัฐบาลGoverment
.inหน่อยงานอิสระIndividual / Incorporation


camfrog คืออะไร?

Camfrog คืออะไร ????
แคมฟรอก (Camfrog) เป็นซอฟต์แวร์ของบริษัทแคมแชร์ (Camshare) สามารถให้ผู้ใช้ สามารถ แลกเปลี่ยน ภาพจากเว็บแคม และเสียงผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยโปรแกรมนี้ สามารถใช้ให้มีการ ประชุมออนไลน์ ได้หลายคนพร้อมกัน แคมฟรอกแตกต่างจากโปรแกรมทั่วไป โดยผู้ใช้สามารถใช้โปรแกรม บนเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองได้ ในปัจจุบัน แคมฟรอกมีการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิด และการแสดงวีดีโอ หลายอย่างรวมถึงเรื่อง การท่องเที่ยว กีฬา ภาษา วัฒนธรรม เล่นเกมตอบปัญหาออนไลน์ แม้แต่เรื่องทางเพศ หรือการร่วมเพศออนไลน์
ในแคมฟรอกแคมฟรอกมีการใช้งานแบ่งออกเป็นห้องโดยแต่ละห้องจะแบ่งออกตามหัวข้อในการสนทนาเช่น ห้องสำหรับ พูดคุยภาษาอังกฤษ ภาษาอิตาลี ภาษาเยอรมัน สำหรับฝึกภาษาซึ่งรวมไปถึงภาษามือสำหรับคนพิการที่มีการเปิดไว้ให้คนพิการได้มีโอกาสคุยกันออนไลน์หลายห้อง นอกจากนี้ยังมีห้องสำหรับพูดคุยเรื่องเพลง หรือเล่าเรื่องผี การศึกษา การทำธุรกิจ หรือแม้กระทั่ง สอนธรรมะ
ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์ของแคมฟรอกแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักคือซอฟต์แวร์ สำหรับการติดตั้งแคมฟรอก ลงบนเซิร์ฟเวอร์ของตนเอง และซอฟต์แวร์ของไคลเอนต์ที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อ ดูภาพผ่านทางเซิร์ฟเวอร์นั้น นอกจากนี้ทางแคมฟรอก ยังมีซอฟต์แวร์อื่นได้ แคมฟรอกเว็บและแคมฟรอกทูลบาร์

แคมฟรอกไคลเอนต์ 
แคมฟรอกไคลเอนต์เป็นซอฟต์แวร์ที่ให้ผู้ใช้ทั่วไปเชื่อมต่อเข้ากับผู้ใช้อื่นผ่านทางเซิร์ฟเวอร์ โดยผู้ใช้เมื่อดาวน์โหลด และลงทะเบียนการใช้งานสามารถใช้งานได้ทันที โดยการเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการเข้าชม โดยสามารถให้ผู้ใช้เชื่อมต่อผ่านทางเว็บแคม สำหรับแสดงผลหรือเข้าชมได้ และสามารถทำงานผ่านไฟร์วอลล์ หรือเราเตอร์ได้ แคมฟรอกไคลเอนต์แบ่งออกเป็นสองรุ่น โดยรุ่นที่ใช้งานได้ฟรีและรุ่นที่ที่ต้องเสียเงินใช้ ซึ่งมีความสามารถพิเศษเพิ่มเข้ามา เช่นสามารถดูวิดีโอขนาดใหญ่ หรือดูวิดีโอหลายหน้าจอพร้อมกันได้

แคมฟรอกเซิร์ฟเวอร์ 
แคมฟรอกเซิร์ฟเวอร์เป็นซอฟต์แวร์ให้ผู้ใช้ติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ของตนเองให้ผู้ใช้คนอื่นได้เข้ามาใช้งาน โดยผู้ติดตั้งสามารถเป็นผู้ควบคุมระบบของเซิร์ฟเวอร์นั้น เช่น จำกัดผู้ใช้งาน ระบุจำนวนผู้ใช้งานได้ แคมฟรอกเซิร์ฟเวอร์แบ่งออกเป็นสองรุ่นคือ รุ่นฟรีและรุ่นที่ต้องเสียเงิน

แคมฟรอกเว็บ 
แคมฟรอกเว็บเป็นโปรแกรมติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ให้ผู้ใช้สามารถประชุมออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ได้ โดยผู้ใช้งานสามารถใช้งานผ่านทางเว็บไซต์โดยตรงแตกต่างกับรุ่นแคมฟรอกเซิร์ฟเวอร์ที่ผู้ใช้จำเป็น
ต้องใช้งานผ่านทางซอฟต์แวร์ไคลเอนต์

แคมฟรอกทูลบาร์ 
แคมฟรอกทูลบาร์เป็นโปรแกรมเสริมสำหรับติดตั้งบนเว็บเบราว์เซอร์ สำหรับค้นหารายชื่อเซิร์ฟเวอร์ หรือค้นหาผู้ใช้งานที่ออนไลน์อยู่ สำหรับติดตั้งกับไฟร์ฟอกซ์และอินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์


MSN คืออะไร

MSN Messenger คืออะไร? อยากรู้ก็ลองอ่านดูนะคะ เจ้า MSN MESSENGER หรือที่ เราชอบเรียกกันว่า MSN เนี่ย มันก็คือ โปรแกรมส่งข้อความข้าม ระบบเน็ทเวิร์ค แบบทันทีทันใดไงล่ะคะ เราสามารถสื่อสารผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับความสะดวกและรวดเร็วค่ะ (^w^)
    ทำไมเจ้า MSN ถึงยอดฮิต? เหตุผลที่เจ้า MSN ยอดฮิตก็เนื่องจากความง่ายของการใช้งาน เพียงคุณแค่มี E-MAIL ของ HOTMAIL หรือ MSN คุณก็สามารถเล่นเจ้า MSN ได้ทันที แถมมันยังผนวกกับ E-MAIL ของเราซะอีกนะคะ โดยที่..เมื่อใดก็ตามที่มีเมล์ เข้ามาถึงเรา เจ้า MSN มันก็จะแจ้งให้คุณทราบทันที นอกจากนั้น ความเร็วของการรับและส่งข้อความระหว่างกันก็ทำได้อย่างรวดเร็วด้วย หน้าตาโปรแกรมที่สวยงาม แถมเวอร์ชันใหม่ เรายังสามารถใส่รูปของเราได้หลากหลายอีกด้วย! แจ๋วจริงๆเลย (^0^)

Twitter คืออะไร

Twitter คืออะไร ?

Twitter.com เป็นบริการส่งข้อความเป็นประโยคสั้นๆ ที่คุณส่งไปนั้นจะเป็นการบอกว่า คุณ กำลังทำอะไรอยู่? ในตอนนั้น เพื่อเป็นบันทึก ณ. ช่วงเวลานั้นว่าคุณทำอะไรอยู่ ลงไปในเว็บไซต์ของ Twitter.com เช่น "กำลังจะกินข้าว" "กำลังจะออกจากบ้าน" เป็นต้น และเมื่อคุณส่งประโยคสั้นๆ ไปเรื่อยๆ ในช่วงเวลาที่คุณมีเวลา และสามารถทำได้ เมื่อกลับมาอ่านมัน ข้อความทั้งหมด มันจะก็จะสามารถประติดประต่อ บอกเรื่องราวว่าคุณทำอะไรไปบ้างช่วงวันหนึ่งๆ ซึ่งจะสะดวกกว่าการ มานั่งหลังคดหลังแข็งมานั่งเขียนบล็อก ทั้งวัน นี้แหละที่ Twitter.com เลยเข้ามาทดแทนและช่วยให้คนไม่ชอบเขียน บล็อก หันมาใช้บริการพวกนี้เยอะมากขึ้น
แต่สิ่งหนึ่งที่มาช่วยให้ Twitter มีประโยชน์ และสนุกมากขึ้น ก็คือ คุณสามารถติดตาม (Follow) คนอื่นๆ ที่เค้าเขียนข้อความลงไปใน Twitter ของเค้าได้ ว่าเค้าคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่ โดยเมื่อคุณ ติดตาม (Follow) เค้าแล้ว เมื่อคนนั้นเค้าทำอะไรและพิมพ์อะไรลงไปใน Twitter คุณก็ได้รับข้อความเหล่านั้นด้วยไปพร้อมๆ กัน และก็สามารถติดตามได้ทีละหลายๆ คน ซึ่งก็จะทำให้คุณทราบว่าเค้าเหล่านั้นกำลังทำอะไรอยู่ในขณะนั้นทันที จะเห็นว่า Twitter ก็เริ่มกลายเป็นเครื่องมือในการกระจายข้อมูล (Broadcast) ของคนๆ หนึ่ง ไปยังคนหลายๆ คนได้ง่ายๆ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และที่สำคัญคือ คุณสามารถส่งข้อความเข้า Twitter ผ่านโทรศัพท์มือถือได้ง่ายๆ ผ่าน SMS หรือ WAP โดยเข้าไปที่ http://m.twitter.com ดังนั้นไม่ว่าคุณอยู่ไหนก็ตาม ที่คุณมีโทรศัพท์มือถือ คุณก็สามารถส่งข้อความเข้า Twitter ได้ง่ายๆ





ทีนี้ เมื่อมีเพื่อนๆ ของคุณ หรือคนที่คุณรู้จัก แล้วเค้าเหล่านั้นใช้บริการ Twitter คุณก็สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนของคุณหรือ คนที่คุณอยากติดตาม เค้ากำลังทำอะไรอยู่ ณ. ตอนนั้น
Twitter ต่างจาก MSN หรือ Instant Messaging ยังไง?

การใช้พวก Instant Messaging หรือพวกโปรแกรม MSN Messenger, G-Talk จะเป็นโปรแกรมที่เราส่งไปหา "คนที่เรารู้จักอยู่แล้ว" โดยส่วนใหญ่จะเป็น "การถาม หรือต้องการคำตอบๆ กลับ" แต่รูปแบบการส่งข้อความของ Twitter จะเป็นการส่ง ข้อความไปในรูปแบบ "บอกเล่า" มากกว่า ว่า"ฉันกำลังทำอะไรอยู่" ไม่ต้องการ หรือคาดหวังว่าจะมีการตอบกลับจากคนที่รับข้อความ แต่ถ้าหากคนได้รับข้อความ แล้วเค้าก็สามารถตอบกลับหาคนที่ส่งมาได้เช่นกัน


ที่มา  http://twitter.lomtoe.com/

HI5 หมายถึง

hi 5 คืออะไร 




Hi5 มิติใหม่ของการหาเพื่อน
      ถึงแม้ว่าเว็บ Hi5 จะเข้าสู่โลกออนไลน์มานานกว่า 4 ปี จากจำนวนสมาชิกทั่วโลกของ Hi5 ตอนนี้มีจำนวนกว่า 65 ล้านรายทั่วโลก และถูกแปลงเป็นภาษาท้องถิ่นแล้วกว่า 9 ภาษา แต่ถึงกระนั้นความนิยมของHi5 ก็โด่งดังอยู่ในกลุ่มของผู้ที่ใช้ภาษาสเปนเป็นหลักโดยเฉพาะโซนอเมริกาเหนือและใต้ ยุโรป และเอเชีย เพราะในตลาดภาษาอังกฤษนั้นมีมายสเปซ และเฟซบุ๊กเป็นผู้นำตลาดครองอยู่ โดยกลุ่มประเทศที่มีมัลติมีเดียของ Hi5 สูงสุด คือ สาธารณรัฐโดมินิกัน คอสตาริกา เอลซัลวาดอร์ เอกวาดอร์ ฮอนดูรัส รองลงมาคือ กัวเตมาลา เปรู ขณะเดียวกันรวมถึงประเทศอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เช่น โปรตุเกส โรมาเนีย และประเทศไทย



        ในขณะที่สมาชิกในไทย มีไปแล้วกว่า1 ล้านราย จากจำนวนผู้เล่นอินเตอร์เน็ตกว่า 13.6 ล้านคนโดยมียอดลงทะเบียนสมาชิกใหม่ 8,000 คนต่อวัน ซึ่งจำนวนสมาชิกยังคงพุ่งกระฉูดอยู่เรื่อยๆ และจากการสำรวจของเอแบคโพลล์ ระบุว่า เว็บยอดฮิตที่วัยรุ่น click เข้าไปบ่อยที่สุด คือ Google.co.th 30.8% , Sanook.com 11.3%, Hotmail.com 9.9%, Kapook.com 5.9% และ Hi5.com 3.9%


         นายเบรต ฟิงเคลสไตล์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายของ Hi5 ดอตคอม ได้กล่าวว่า เมืองไทยเป็นประเทศที่มีจำนวนสมาชิกมาเป็นอันดับ 12 ของHi5 แต่มีอัตราการเติบโตสูงสุดเป็นอันดับ 3


        จากการสำรวจข้อมูลการเล่น Hi5 ของคนไทยพบว่า ที่มีการเล่นมากที่สุดอยู่ที่ช่วงอายุ 18-24 ปี เป็นสัดส่วนถึง 42.19% โดยสัดส่วนของผู้หญิงและผู้ชายก็จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน โดยที่สัดส่วนของผู้เล่นเพศหญิงจะมากกว่าเล็กน้อย
     
Hi5 คืออะไร?

        Hi5 เป็นระบบอินเตอร์เน็ตออนไลน์ที่มีการเชิญเพื่อนจากรายชื่อเพื่อนในอีเมลต่างๆสมัครเข้ามาเป็นเพื่อนของเรา โดยระบบจะทำการแอดเมล์เพื่อนให้ รูปแบบทั่วไปภายใน Hi5 จะมีทั้งการโชว์รูปภาพ เพื่อฟรีเซ็นต์ตัวเอง เราได้แสดงความเป็นตัวตนของเราอย่างภาคภูมิใจ ด้วยการสร้างและตกแต่ง Hi5 ของเราด้วย ของแต่ง Hi5 ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ , Skin ,Wallpaper , ดุ๊กดิ๊ก , Cursor , ภาพเคลื่อนไหว และของแต่ง Hi5 อื่นๆ อีกมากมายมีพื้นที่ให้เขียนเรื่องราวส่วนตัวด้วย

        วิธีสมัครก็ทำได้ด้วยวิธีง่ายๆคือคลิกเข้าไปที่ www.hi5.com คลิกที่ปุ่ม Sign Up  ระบบจะถามชื่อและรหัสผ่านให้ใส่ไปตามที่สมาชิกต้องการระบบจะลิงห์ข้อมูลเข้าไปในอินเตอร์เน็ตทั่วโลก หรือใครได้รับ

       อีเมลจากเพื่อนชวนไปสมัครยิ่งเร็วมากขึ้น เพราะระบบออนไลน์จะทำการหาเพื่อนให้มาเป็นสมาชิก และยังมีรายชื่อสมาชิกคนอื่นๆ อยู่ในลิสต์เพียงเรา แค่คลิกคำว่า “ Add” สมาชิกคนอื่นๆ ก็จะมาเป็นเพื่อนกับเราได้โดยอัตโนมัติ หรือถ้าเราสมัครตรงจากเว็บ Hi5 ระบบนี้ก็จะไปเชิญชวนเพื่อนๆ และคนรู้จักของเพื่อนๆ มาเป็นเพื่อนเราเหมือนกัน

        Hi5 เป็นเหมือนตู้ ปณ.อย่างหนึ่งที่วัยรุ่นใช้เขียนข้อความส่งถึงกัน และเมื่อใครได้รับข้อความจากเพื่อนก็จะส่งข้อความตอบกลับเพื่อนสลับกันไปมา

        Hi5 เข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2546 ขณะนั้นยังไม่มีลูกเล่นหรือการตกแต่งที่หลากหลาย เป็นเพียงพื้นที่ว่างสำหรับโชว์รูปภาพเพียงอย่างเดียว แต่ในปีพ.ศ. 2550 ที่ผ่านมา Hi5ได้รับความนิยมสูงสุด ทางเว็บไซต์ที่เป็นเจ้าของจึงปรับโฉมใหม่ให้ Hi5 ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นโดยเพิ่มมัลติมีเดีย มีสไลด์โชว์รูป ลงคริปวีดีโอ เขียนไดอารี่ และคอมเมนท์รูปภาพเข้าไปให้วัยรุ่นเข้าไปเล่นมากขึ้น และเป็นช่องทางขายสื่อโฆษณาภายในเว็บไซต์ไปด้วยซึ่งธุรกิจนี้กำลังเป็นที่จับตามองของนักลงทุนหลายราย


        “เสน่ห์ของ Hi5 นอกจากจะทำให้เรามีเพื่อนเยอะแล้วยังเป็นที่รวมเพื่อนๆ ที่ถูกใจเราด้วย และยังเป็นที่ๆเราสามารถแสดงออกถึงความเป็นตัวของเราเองได้อีกด้วย  ดังนั้นการตกแต่งประดับประดาหน้าเว็บ Hi5 ของเราจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องใส่ใจและสวยงามในสไตล์ที่เราชอบ  แต่ก็เสี่ยงเหมือนกันคือ เราเอารูปภาพและข้อมูลส่วนตัวไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน อาจจะมีพวกมิจฉาชีพที่ไม่หวังดีเข้ามาโจรกรรมข้อมูลของเราได้ เพระระบบจะลิงห์เข้าอีเมลของเราได้ จึงไม่ควรใช้อีเมลที่เราเก็บข้อมูลสำคัญเอาไว้ไปสมัคร Hi5 แต่ปัญหาดังกล่าวจะเกิดขึ้นในเมืองนอกซะส่วนใหญ่ ” กิตตินันท์ กล่าว